วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์ผู้ที่ใช้ 7 Habits ในการอบรม


บทสัมภาษณ์

T:สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาสัมภาษณ์พี่สาวที่ทำงานเกี่ยวกับ7 Habbit หรือว่า 7 อุปนิสัย ที่ผมเคยเสนอไปในบล็อกกันนะครับ ตอนนี้พี่มุก ทำงานอะไรอยู่ครับ 

M:ตอนนี้พี่มุกทำงานด้านการอบรมเยาวชนและพัฒนาทรัพยากรบุคคลค่ะ

T:แล้ว7 Habbit เกี่ยวข้องยังไงกับการพัฒนาเยาวชนและบุคลากรครับ 

M:ค่ะ7 Habbit ก็จะเป็นหนึ่งในหลักสูตรที่จะช่วยในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและบุคลากรที่เราไปจัดฝึกอบรมให้ค่ะ

T:ครับ งั้นพี่ลองเล่าคร่าวๆให้ฟังได้ไหมครับว่ามีอะไรบ้าง 

M: 7อุปนิสัย เป็นการพูดถึงอุปนิสัย  7 ประการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จค่ะ โดยเริ่มจากอุปนิสัยแรกคือBe Proactive หรือเราเป็นผู้เลืกกระทำนั้นเองค่ะ อุปนิสัยที่2 คือBegin with the End in Mind ก็คือการเริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ ค่ะ และอุปนิสัยที่3 นะค่ะPut First Things First คือการทำสิ่งที่สำคัญก่อนค่ะ

T:ครับ

M: และก็อุปนิสัยที่4นะค่ะก็จะเป็น  Think Win-Winหรือคิดแบบ ชนะ/ชนะนั้นเองค่ะ

T:ครับ

M:สำหรับอุปนิสัยที่5 ก็คือ Seek First to Understand, Then to be Understood.ก็คือเข้าใจคนอื่นก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจเราค่ะและสำหรับอุปนิสัยที่6นะค่ะ ก็คือ Synergizeหรือการประสานพลังนั้นเองค่ะ  
และสำหรับอุปนิสัยสุดท้าย ซึ่งเรียกได้ว่ามีความสำคัญเกือบเท่าอุปนิสัยที่ 1เลยทีเดียว นั้นก็คือ Sharpen the saw หรือ ลับเลื่อยให้คมนั่นเองค่ะ  โดยที่ 3อุปนิสัยแรก จะเป็นชัยชนะส่วนตนเอง  ถ้าเกิดว่าใครที่สามารถทำได้ ก็จะทำให้ตนเองประสบความสำเร็จเหมือนการเอาชนะใจตนเองได้  ส่วนอุปนิสัยที่ 4,5,6 จะเป็นเรื่องชัยชนะส่วนรวม ถ้าเกิดทุกคนทำได้ก็จะทำให้สังคมหรือทีมงานนั้นประสบความสำเร็จค่ะ และก็จะเป็นความสำเร็จที่ถาวร ส่วนอุปนิสัยที่7นะค่ะเป็นเรื่องของการSharpen the saw ซึ่งสำคัญมากค่ะ เพราะว่าถ้าไม่มีการพัฒนานิสัยนี้ ก็จะทำให้อุปนิสัยที่ 1,2,3,4,5,6 ดำเนินไปได้แบบไม่สมบูรณ์แบบ

T:คือ ไม่กลมกลืน

M:ค่ะใช่ เพราะอุปนิสัยที่ 1,2,3 นั้นเหมือนรากและส่วนต้นของต้นไม้ ส่วน อุปนิสัยที่4,5,6 เหมือนลำต้นส่วนบนของต้นไม้ เป็นกิ่ง เป้นก้าน เป็นใบค่ะ ส่วนอุปนิสัยที่7 ก็เปรียบเสมือน ปุ๋ย แสงแดด น้ำ ที่จะเป็นตัวหล่อเลี้ยงต้นไม้ค่ะ

T: ก็เหมือนอาหารทั้งหมดของอุปนิสัยที่ผ่านมาใช่ไหมครับ

M:ใช่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่ผ่านการอบรมอุปนิสัย ก็จะเป็นคนที่สมบูรณ์ในด้านการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย

T:และใชัเวลานานไหมครับในการฝึกอบรมอุปนิสัยที่ 7

M:จริงๆแล้ว ถ้าเป็นในหลักสูตร 3วัน2คืน ถามว่านานไหมก้ไม่นานนะค่ะ ก็จะได้ในการปรับทัศนคติ ซึ่งทางเราก็จะมีในช่วงของการบรรยาย ประกอบการทำกิจกรรมควบคู่กันไปค่ะ และก็จะมีการเข้าฐานประยุกต์อุปนิสัยให้มีความเข้าใจมากขึ้น แต่ถามว่าจบแล้วจะเปลี่ยนแปลงได้เลยไหม ก็จะขอตอบเลยว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะ

T:ครับ

M:สิ่งทีี่เราทำต่อคือ จะให้เด็กและเยาวชนหรือผู้ฝึกอบรม ได้ฝึกกันต่อในระยะยาว เพราะว่าเรื่องการปลูกฝังนิสัย เป็นเรื่องที่เปรียบเหมือนการปลูกเมล็ดพืช จะต้องคอยรดน้ำ พรวนดินตลอดเวลาจนกว่าต้นไม้จะแข็งแรงค่ะต้นไม้

T:พูดง่ายๆคือ เราจะต้องใช้ระยะเวลา ให้ตัวเองได้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ปลูกฝังนิสัยทั้งหมดนี้ใช่ไหมครับ

M:ใช่ค่ะ แล้วเราก็จะมีการผูกกลุ่มด้วย และก็จะดูแลกันแบบใกล้ชิด ประมาณอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งก็จะต้องมีการเข้ามาเพื่อพูดคุยกัน

T:แล้วผลสัมฤทธิ์นี่ มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้างไหมครับ

M:อย่างแรกเลยน้องที่มาเข้าค่ายฝึกอบรม 3วัน2คืน น้องก็จะได้ในเรื่องของการเปลี่ยนทัศนคติและพอน้องเริ่มลงมือทำแล้ว ก็จะได้เห็นผลทันทีของสิ่งที่เค้าทำค่ะ ส่วนเด็กที่สามารถทำได้ในระยะยาว ก็จะมีผลการเรียนที่ดีขึ้น มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีวามสัมพนธ์ของครอบครัวที่  happy ก็เรียกได้ว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน ถ้าผู้ที่ฝึกอบรมเค้าไปทำจริงๆ

T: แสดงว่ามันเยี่ยมมากเลยนะครับ ถ้าหากว่าได้นำไปพัฒนาตัวเองกันจริงๆ

M:ใช่ค่ะ ถ้าน้องตองสนใจ ก้ไปอบรมได้นะค่ะ เดี๋ยวพี่หาคอร์สพิเศษให้เลย

T:ได้ครับ งั้นวันหลัง ไว้มาเจอพี่มุกอีกครั้งนะครับ

M:ได้ค่ะ

T:วันนี้ขอขอบพระคุณมากเลยนะครับ

M:ค่ะ

T:ครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น